"เมื่อเราให้ใจเขา เขาก็ให้ใจเรา"
ก่อนที่เล็กจะตาสว่าง เวลาเล็กจะทำงานกับทีม หรือคนอื่น ๆ
เล็กค่อนข้างใช้การออกคำสั่ง บอกให้ทำนั่นนี่ (directive) แล้วหลายครั้ง เล็กก็พูดตรง จนกระทบความรู้สึกคนอื่น สร้างความกดดันให้เขา ใส่ใจทุกข์สุขของเขาน้อยไปหน่อย
แล้วเล็กไม่รู้ตัวด้วยค่ะ เพราะเล็กมัวแต่โฟกัสจะผลักดันงานให้สำเร็จ ทำให้บางครั้ง คนที่ร่วมงานกับเล็ก รู้สึกอึดอัด เครียด ไม่มีความสุข และขวัญกำลังใจในการทำงานก็ลดลงตามไปด้วย
พอเล็กสำนึกได้ ว่าวิธีนี้มันไม่ใช่แล้ว มันมีวิธีอื่นที่ดีกว่า แทนที่จะสั่ง กดดัน ตามงาน ไล่บี้ แผ่รังสีอำมหิต เล็กเปลี่ยนใหม่ค่ะ เปลี่ยนมาเป็น
ผู้ฟังที่ดี ใจเย็นมากขึ้น ลดการตัดสิน ค่อย ๆ ถามคำถาม สร้างความไว้วางใจ ทำให้คู่สนทนารู้สึกปลอดภัย กล้าเปิดใจคุยกับเล็ก คุยเรื่องส่วนตัวด้วยนอกเหนือจากเรื่องงาน ใส่ใจความรู้สึกและทุกข์สุขของคนรอบตัวมากขึ้น ชื่นชม ให้กำลังใจ เป็นที่ปรึกษาในเรื่องที่เขากังวลใจ เป็นต้น และอีกสารพัดอย่างเลยค่ะ
กลยุทธ์เหล่านี้ทำให้ได้รับความร่วมมือจากทีมมากทีเดียว เพราะมันสร้างการมีส่วนร่วม สร้างพื้นที่ปลอดภัย ให้เขารู้สึกสบายใจ ไว้วางใจเล็ก สร้างความรู้สึกที่ดีต่อกัน เคารพและให้เกียรติ ทำให้เขารู้สึกดีกับตัวเอง แล้วเขาก็รู้สึกดีกับเล็กด้วยค่ะ แต่ทั้งหมดนี้ทำบนความจริงใจนะคะ เพราะถ้าไม่จริงใจ ถ้าfake ยังไงคนก็จับได้ค่ะ
เล็กรู้สึก connect และเชื่อมโยงกับทีมมากขึ้น มันรู้สึกถึงความเป็นพี่น้อง มากกว่าเพื่อนร่วมงาน หรือ หัวหน้า-ลูกน้องค่ะ
แล้วผลลัพธ์ของงานก็ได้ตามคาดหวังด้วย ได้ดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะทีมทำงานอย่างมีความสุข พร้อม support พร้อมช่วยเหลือ และกล้าคุยกับเล็กอย่างตรงไปตรงมา ถึงความกังวล หรือปัญหาที่เจอ ทำให้เราได้ช่วยกันแก้ปัญหาค่ะ
เล็กดีใจจังค่ะ ที่เล็กสามารถสร้างผลลัพธ์ได้ทั้งเรื่องงาน และความสัมพันธ์ที่ดีกับทีม เล็กเลยกลายเป็นคนที่มีคาแรกเตอร์ตรงข้ามกันในตัวเอง พี่และน้องที่ทำงานใกล้ชิดกับเล็ก บอกมาค่ะ ว่า...
"เล็กใจดีนะ แต่มันเหมือนมีปุยนุ่ม ๆ ห่อแท่งแข็ง ๆ ไว้"
ความใจดี คงเปรียบเสมือน ปุยนุ่ม ๆ ภายนอก ส่วนการเป็นคนที่เน้นผลลัพธ์ (result-oriented) ชัดเจน และกัดไม่ปล่อย คงเปรียบเสมือนแท่งแข็ง ๆ ที่อยู่ในปุยนุ่มนั้น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เล็กยอมรับทุกอย่างที่เป็นตัวเอง ทั้งข้อดี และข้อเสีย ซึ่งเล็กก็ยังคงต้องเรียนรู้และพัฒนาตัวเองต่อไป
แต่โดยรวมแล้ว เล็กก็มีความสุขกว่าเมื่อก่อนมากเลยค่ะ กว่าจะรอดมาได้ ทั้งหมดนี้ไม่ได้ ได้มาง่ายๆนะคะ เพราะฝึกมาเรื่อยๆ สะสมอยู่ 5 ปี
นี่ดูเหมือนข่าวร้ายเนอะ ว่ามันยากขนาดนั้นเลยหรอ ต้องฝึกนาน 5 ปีเลยหรอ
ใช่แล้ว ข่าวร้ายคือคุณต้องฝึก ต้องลงมือทำ ต้องทำซ้ำ ๆ เพราะมันคือทักษะ แต่ข่าวดีคือ เล็กคิดว่าคุณอาจไม่ต้องใช้เวลาถึง 5 ปีก็ได้นะคะ เพราะเล็กคือคนที่อาการหนัก เลยใช้เวลานานค่ะ
แล้วเล็กพยายามรวบรวมวิธีคิด วิธีทำ กลยุทธ์ เครื่องมือ ทั้งหมดมาให้ เพื่อให้คุณได้ shortcut ย่นระยะเวลา ไม่ต้องใช้เวลานานเท่าเล็ก เพราะเล็กก็มั่วไปมาอยู่นาน ล้มลุกคลุกคลานมาเรื่อย ๆ มันเลยช้าค่ะ คุณจะได้ shortcut ที่เร็วกว่าเล็ก แต่คุณต้องฝึก ต้องลงมือทำนะคะ
เพราะถ้าคุณไม่ทำ ย่อมไม่มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ้นแน่นอนค่ะ
อยากเรียนรู้ต่อแล้วหรือยังคะ ถ้าพร้อมไปต่อแล้ว คลิกเลยค่ะ
© 2022 Life Leklek
All Rights Reserved. Site design by Life Leklek.